วันพฤหัสบดี, มกราคม 15, 2552

รถไฟฟ้าใน มข.

ชมรมจักรยาน ขอชื่นชม
มข.พลิกโฉมระบบขนส่งมวลชน ลดมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ร่วมรณรงค์ให้นักศึกษาและบุคลากรใช้รถจักรยาน

มหาวิทยาลัย ขอนแก่น เล็งเป้าลดค่าใช้จ่ายจากภาวะน้ำมันแพงให้กับบุคลากรและนักศึกษา สนองนโยบายรัฐบาลเพื่อลดการใช้พลังงาน โดยจัดระบบบริการขนส่งมวลชนเน้นใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV

มุ่งเป้าพร้อมเปิดใช้ภายในปีการศึกษา 2552



ผศ. วันชัย ธนาเศรษฐอังกูล รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาระบบกายภาพ และประธานอนุกรรมการฝ่ายระบบขนส่งมวลชน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประมาณ 20,0000 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคล กว่า 8,000 คัน และคาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทุกปี เห็นได้ชัดถึงการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเทียบกับสภาวะน้ำมันแพง รวมทั้งปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอต่อบุคลากรและนักศึกษา ทำให้คณะผู้บริหารมีแนวคิดลดการใช้รถส่วนตัวของบุคลากร และนักศึกษาเพื่อประหยัดพลังงาน จนกระทั่งเกิดการผลักดัน โครงการระบบขนส่งมวลชนภายใน ขึ้น โดยมีการมอบหมายให้ศูนย์วิจัยโครงสร้างมูลฐานอย่างยั่งยืนทำการศึกษาข้อมูล การบริการขนส่งมวลชนจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในประเทศประกอบการคัดสรรประเภทของรถใช้งานและการใช้เชื้อเพลิง อีกทั้งจัดตั้งคณะกรรมการทำงานทั้งสิ้น 3 ชุด คือ คณะกรรมการกำหนดลักษณะของรถ, คณะกรรมการกำหนดเส้นทางเดินรถและจุดจอดรถ, คณะกรรมการกำหนดสัญญาการจ้างเหมาระบบขนส่งมวลชนได้ถูกกำหนดออกแบบ พิจารณาให้เหมาะสมกับภูมิประเทศ และภูมิอากาศ สามารถขึ้นลงได้สะดวก ปลอดภัย ซึ่งจุดเด่นของระบบขนส่งมวลชนที่ทางมหาวิทยาลัยฯ เลือกใช้จะเป็นรถShuttle Bus ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติNGV ที่มีราคาต่ำกว่าการใช้น้ำมัน และมีคุณสมบัติเฉพาะ ซึ่งมีองค์ประกอบหลักเป็นก๊าซมีเทน มีความปลอดภัยสูง มีมวลเบากว่าอากาศเมื่อเกิดการรั่วจะกระจายตัวไม่สะสมอยู่บริเวณพื้นดิน มีความไวไฟน้อยกว่าเชื้อเพลิง เป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดไม่ก่อให้เกิดควันดำไม่ก่อให้เกิดสารอันตรายต่อ สุขภาพของนักศึกษา และบุคลากร และช่วยลดปัญหาสภาวะทางอากาศ


โดยแบ่งรถบริการเป็น 2 ขนาด คือ ขนาดใหญ่และเล็ก โดยรถบริการขนาดใหญ่ขนาด 60 ที่นั่ง ให้บริการตามเส้นทางหลัก 4 สาย ส่วนรถบริการขนาดเล็ก 30 ที่นั่ง ให้บริการตามเส้นทาง 2 สาย แยกไปตามคณะฯ ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยจัดบริการหมุนเวียนในการบริการทุก 10 นาทีต่อคัน เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้บริการ ทั้งนักศึกษาสามารถลดการใช้จักรยานยนต์ในการย้ายห้องเรียน หรือ คณะต่างๆ และบุคลากรได้รับความสะดวกต่อการเดินทางประสานงานต่าง ๆ และลดการใช้รถของหน่วยงาน เพราะรถโดยสารบริการนี้สามารถเคลื่อนคนไปยังจุดหมายปลายทางได้จำนวนมากถือ ว่าเป็นการใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งรถโดยสารบริการนี้ในระยะแรกจะเปิดให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และคาดว่าพร้อมให้บริการในปีการศึกษา 2552 นี้